tag:blogger.com,1999:blog-43477916134721151182024-02-08T04:20:32.488-08:00peeradechพีระเดช 52C31http://www.blogger.com/profile/07912466427488071341noreply@blogger.comBlogger9125tag:blogger.com,1999:blog-4347791613472115118.post-21191046716267860842010-03-03T22:19:00.000-08:002010-03-03T22:31:10.601-08:00บทความ "ยาสีฟัน"<span style="font-family:arial;"><span style="color:#cc33cc;">ฟันของคนเราจริงๆแล้วมีสีดำ คนสมัยก่อนจึงชอบกินหมาก นอกจากจะช่วยบำรุงรากฟันให้แข็งแรงแล้ว ยังช่วยรักษาสีดำของฟันให้เป็นสีดำที่เนียนเงางามอีกด้วย ตากี้ แห่งหมู่บ้านคลองเกต เป็นชายตัวดำขี้โม้ ชอบกินขนมโก๋แล้วไม่บ้วนปาก ทุกมื้อเช้า กลางวัน เย็น ก่อนและหลังอาหาร ตากี้ต้องหยิบขนมโก๋ขึ้นมากิน เขาชอบรสชาติของการเลียเศษขนมโก๋ที่ติดอยู่ตามไรฟันเป็นที่สุด ตั้งแต่</span><span style="color:#009900;">เด็กจนแก่ ตากี้ก็ยังกินขนมโก๋แล้วไม่บ้วนปากอยู่อย่างนั้น จนมีฟันเป็นสีขาว เป็นสีขาวตามขนมโก๋นั่นเอง ไม่มีใครคบตากี้เป็นเพื่อน เพราะตากี้มีฟันสีขาว โบราณว่าไว้ว่า “คนผมหยิก คอสั้น ฟันขาว” เป็นคนคบไม่ได้ ซึ่งตากี้มีครบทุกอย่างตามนั้น เขาจึงต้องหลบๆซ่อนๆตัวเองอยู่ในกระท่อมท้ายคลองเพียงลำพัง เขาเฝ้าฝึกปรือฝีมือการทำขนมโก๋ไว้กินเองจนชำนาญ วันเวลาผ่านเลยไป คนรุ่นใหม่ๆ</span><span style="color:#cc9933;">เกิดขึ้นมา มีเด็กอยู่กลุ่มหนึ่ง วิ่งเล่นไล่จับกันจนมาเจอตากี้ที่กระท่อม เห็นตากี้มีฟันขาวก็เลยสงสัย ตากี้อารมณ์ดีก็โม้ไปเรื่อยว่า พวกหัวสมัยใหม่ในเมืองกรุง ตอนนี้กำลังนิยมมีฟันสีขาวกันมากเด็ก ๆ อยากมีฟันสีขาวบ้าง ตากี้จึงแบ่งขนมโก๋ให้กิน เด็ก ๆ กินแล้วฟันไม่ขาว ตากี้บอกฟัน จะขาวได้ต้องกินขนมโก๋แบบไม่บ้วนปากนานเป็นสิบ ๆ ปี เด็กๆบ่นรอไม่ไหว ตากี้จึงผสมสูตรทำขนมโก๋ขึ้นมา</span><span style="color:#cc33cc;">ใหม่ เป็นขนมโก๋แบบเหนียวๆ คราวนี้กินครั้งเดียว ฟันขาวติดทนนาน แม้จะบ้วนปากกี่ครั้งก็ยังขาวอยู่ เด็กๆชอบใจ เอาฟันขาวไปอวดพ่อแม่ตอนแรกก็โดนด่า แต่พอบอกว่าตอนนี้พวกหัวสมัยในเมืองเขานิยม พ่อแม่ก็เลยอยากทันสมัยกับเขาบ้าง จากหมู่บ้านเล็ก ขยายไปหมู่บ้านใหญ่ ขนมโก๋กินแล้วฟันขาวของตากี้โด่งดังไปจนถึงในเมือง ขนาดพวกหัวสมัยที่เคยโดนแอบอ้างชื่อ รู้ข่าวยังอยาก</span><span style="color:#663300;">ลองเอง ตากี้ขายขนมโก๋ร่ำรวยจนคนเริ่มขอสูตรเอาไปดัดแปลง ทำให้มีขนมโก๋และอุปกรณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้น จากที่เคยห่อกระดาษ ก็นำมาใส่กล่อง ใส่หลอดให้บีบง่ายขึ้น จากที่เคยใช้นิ้วก็เริ่มหัวมาใช้แปลงทาสีอันเล็กๆ เอามาทามาป้ายขนมโก๋ไปบนฟัน เหมือนการ”ยาเรือ” แม้ว่าภายหลังจะมีคนพยายามทำขนมโก๋เป็นสีต่างๆ แต่ขนมโก๋ยอดนิยมที่คนนำมายา หรือ ทาสีก็ยังคงเป็นสีขาว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา</span></span>พีระเดช 52C31http://www.blogger.com/profile/07912466427488071341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4347791613472115118.post-19070446322683692912010-03-03T22:01:00.000-08:002010-03-03T22:18:53.395-08:00สรุป แนวทางของการออกแบบองค์ประกอบทางทัศนะ และการออกแบบและพัฒนาเลิร์นนิ่ง อ๊อบเจ็ค<span style="font-family:arial;"><span style="font-size:130%;color:#ff0000;">แนวทางของการออกแบบองค์ประกอบทางทัศนะ</span><br /><br /><span style="color:#ff9966;">สารสนเทศที่นำเสนอ เช่น ข้อความ ภาพนิ่ง วีดิทัศน์ ภาพเคลื่อนไหว ต่างๆเหล่านี้นับได้ว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เกิดการปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน ซึ่งแนวทางในการออกแบบ ได้แก่<br /></span><span style="color:#009900;">1. ควรนำเสนอสาระที่พอควรในแต่ละหน้าจอ ถ้าใส่แน่นเกินไปจะทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ลดลง<br />2. กรณีที่ต้องนำเสนอเนื้อหาจำนวนมาก ควรเสนอเนื้อหานั้นเป็นกลุ่มย่อยๆและเป็นช่วงๆ<br />3. กรณีใช้กรอบวินโดวส์ในการนำเสนอ เพื่อวัตถุประสงค์ ได้แก่</span><br /><span style="color:#3366ff;">3.1 ดึงความสนใจของผู้เรียน<br />3.2 ลดความแน่นของหน้าจอ<br />3.3 สร้างรูปแบบการนำเสนอ<br /></span><span style="color:#cc66cc;">4. ใช้ปุ่มที่เข้าใจง่ายและดึงความสนใจของผู้เรียน<br />5. นำเสนอด้วยรูปภาพ ไดอะแกรม และโฟล์ชาร์ต เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเห็นภาพรวม เข้าใจง่ายและจดจำได้<br />6. เทคนิคที่ช่วยนิเทศก์ผู้เรียน<br /></span><span style="color:#9999ff;">6.1 วางเนื้อหาและองค์ประกอบต่างๆให้คงที่<br />6.2 วางผังหน้าจอให้สม่ำเสมอ<br />6.3 กำหนดรูปแบบของทัศนะบนหน้าจอให้คงที่<br /></span><span style="color:#996633;">6.4 ใช้สีและรูปร่างเป็นตัวชี้แนะ<br />6.5 ใช้ป้ายหรือสัญลักษณ์บอกตำแหน่ง<br />6.6 ให้มีมุมมองแบบนกมอง คือ มองได้ทั้งระยะใกล้และไกล</span><br /><span style="color:#cc6600;">7. เทคนิคในการกำหนดตำแหน่งสาระบนหน้าจอ<br />7.1 วางสาระสำคัญในตำแหน่งที่สำคัญ<br />7.2 แสดงสาระที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างหน้าจอต่อหน้าจอ<br />7.3 วางสาระที่แสดงอยุ่ปัจจุบันไว้ในตำแหน่งคงที่<br /></span><span style="color:#333300;">8. เมื่อต้องการแสดงสาระสำคัญที่ต้องการดึงดูดหรือนำสายตาผู้เรียน ให้ใช้เทคนิคต่างๆ<br />9. เทคนิคที่ช่วยในการชี้แนะสาระ<br />10. เทคนิคเกี่ยวกับสี<br /></span><br /><span style="font-size:130%;color:#ff0000;">การออกแบบและพัฒนาเลิร์นนิ่ง อ๊อบเจ็ค (LO)</span><br /><br /><span style="color:#993300;">ต้องอาศัยทีมงานในการทำงานอย่างน้อย ได้แก่<br /></span><span style="color:#ffcc00;"><span style="color:#009900;">1) ผู้ชำนาญด้านเนื้อหา<br />2) นักออกแบบการเรียนการสอน<br />3) นักออกแบบกราฟิก</span><br /></span><span style="color:#33ff33;">4) ผู้เขียนโปรแกรมขั้นตอนการดำเนินงาน<br />1. ขั้นตอนการพัฒนาเนื้อหา</span><br /><span style="color:#3366ff;">1.1 กำหนดวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้<br />1.2 กำหนดกิจกรรมการเรียนรู้<br />1.3 วิเคราะห์ผู้เรียน เพื่อกำหนดความเหมาะสมของกิจกรรม<br /></span><span style="color:#cc33cc;">1.4 เขียนสตอรี่บอร์ด เป็นการกำหนดสิ่งที่จะปรากฎบนหน้าจอ<br />1.5 เขียนโฟล์วชาร์ต ซึ่งช่วยให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างหน้าจอแต่ละหน้า<br />2. การผลิต ทีมงานจะทำงานตามสตอรี่บอร์ดและแผน ที่ได้วางไว้<br /></span><span style="color:#663366;">2.1 ทีมงานผลิตทำการศึกษาโฟล์วชาร์ตและสตอรี่บอร์ดโดยละเอียด<br />2.2 ทีมงานผลิตให้คำแนะนำแก่นักออกแบบหรือหัวหน้าผู้พัฒนาคอร์สเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา<br />2.3 กรณีที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ ทีมงานผลิตอาจแยกความรับผิดชอบงานออกเป็นชิ้นย่อยๆ จึงลงมือสร้าง และนำมารวบรวม</span></span>พีระเดช 52C31http://www.blogger.com/profile/07912466427488071341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4347791613472115118.post-36420181722645535552010-01-15T00:08:00.000-08:002010-01-15T00:52:27.787-08:00ตัวอย่าง CMS , LMS , LCMS<div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span></div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span></div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span> </div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;">ตัวอย่างของ <span style="font-size:100%;">CMS</span></span></div><div align="center"> <img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5426877243533591986" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 200px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://4.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S1AkGaR4hbI/AAAAAAAAABs/wqb6HIp3dhw/s320/cms.JPG" border="0" /></div><div align="center">ที่มา : <a href="http://www.magentocommerce.com/">http://www.magentocommerce.com/</a><br /><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span></div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span></div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span></div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span></div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span></div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span></div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span> </div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span> </div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;">ตัวอย่างของ <span style="font-size:100%;">LMS</span></span> </div><div align="center"> </div><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5426880123811510274" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 200px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://4.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S1AmuEJpuAI/AAAAAAAAAB8/TxEGCbWkuEk/s320/lmd.JPG" border="0" /> <p align="center">ที่มา : <a href="http://edtech.pn.psu.ac.th/lms/">http://edtech.pn.psu.ac.th/lms/</a><br /></p><br /><div align="center"><span style="color:#ff0000;"><span style="font-size:180%;"></span></span></div><div align="center"><span style="color:#ff0000;"><span style="font-size:180%;"></span></span></div><div align="center"><span style="color:#ff0000;"><span style="font-size:180%;"></span></span></div><div align="center"><span style="color:#ff0000;"><span style="font-size:180%;"></span></span></div><div align="center"><span style="color:#ff0000;"><span style="font-size:180%;"></span></span></div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span></div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span> </div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;"></span> </div><div align="center"><span style="font-size:180%;color:#ff0000;">ตัวอย่างของ<span style="font-size:100%;"> LCMS</span></span></div><p><a href="http://3.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S1AnVCk0PCI/AAAAAAAAACE/tGaXXBZ1Rlw/s1600-h/lcms.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5426880793403472930" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 200px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S1AnVCk0PCI/AAAAAAAAACE/tGaXXBZ1Rlw/s320/lcms.JPG" border="0" /> </p><p align="center"></a>ที่มา : <a href="http://www.atutor.ca/">http://www.atutor.ca/</a></p>พีระเดช 52C31http://www.blogger.com/profile/07912466427488071341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4347791613472115118.post-12323436512540623242010-01-14T23:06:00.000-08:002010-01-14T23:23:58.938-08:00ความแตกต่างของ CMS,LMS,LCMS<span style="color:#ff0000;">CMS</span> มีส่วนของ Administration panel(เมนูผู้ควบคุมระบบ) ที่ใช้ในการบริหารจัดการส่วนการทำงานต่างๆในเว็บไซต์ ทำให้สามารถบริหารจัดการเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว และเน้นที่การจัดการระบบผ่านเว็บ(Web interface) ในลักษณะรูปแบบของ ระบบเว็บท่า(Portal Systems) โดยตัวอย่างของฟังก์ชันการทำงาน ได้แก่ การนำเสนอบทความ(Articles), เว็บไดเรคทอรี(Web directory), เผยแพร่ข่าวสารต่าง<br /><br /><span style="color:#ff0000;">LMS</span> มุ่งเน้นการจัดการเกี่ยวกับผู้เรียน กิจกรรมของผู้เรียน ติดตามความก้าวหน้าและประเมินความสามารถของผู้เรียน<br /><span style="color:#ff0000;">LCMS</span> มุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหา การนำเนื้อหากลับมาใช้ใหม่ การจัดการและการปรับปรุงเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นพีระเดช 52C31http://www.blogger.com/profile/07912466427488071341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4347791613472115118.post-88109544529408143832010-01-14T22:16:00.000-08:002010-01-14T23:17:09.519-08:00ความหมายของ CMS,LMS,LCMS<strong><span style="color:#ff0000;">1. CMS ; Content Management System</span></strong><br /><br /><a href="http://1.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S1AOHj0UMmI/AAAAAAAAABU/ieiN-AptdGQ/s1600-h/CMS.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5426853074017989218" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 200px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S1AOHj0UMmI/AAAAAAAAABU/ieiN-AptdGQ/s320/CMS.JPG" border="0" /></a><br /><br /> Content management system,CMS คือระบบซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้เพื่อจัดระเบียบ และส่งเสริมการทำงานในหมู่คณะ ให้สามารถสร้างเอกสาร หรือเนื้อหาสาระอื่นๆ โดยมากแล้ว ระบบจัดการเนื้อหา มักจะเป็นเว็บแอปพลิเคชัน ซึ่งใช้จัดการเว็บไซต์และเนื้อหาบนเว็บ และมีไม่น้อยที่ระบบจัดการเนื้อหาต้องใช้ซอฟแวร์พิเศษบนเครื่องเครื่องลูกข่าย เพื่อใช้แก้ไขและสร้างบทความต่างๆ<br />ที่มา :<span style="font-size:85%;"> <span style="color:#ffff00;">http://th.wikipedia.org/wiki/CMS</span><br /></span><br /><strong><span style="color:#ff0000;">2. LMS ; Learning <span style="font-family:times new roman;">Management</span> System</span></strong><br /><br /><p><a href="http://2.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S1APMaxeFdI/AAAAAAAAABc/9qro7rZoFbM/s1600-h/LMS.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5426854257001108946" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 200px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://2.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S1APMaxeFdI/AAAAAAAAABc/9qro7rZoFbM/s320/LMS.JPG" border="0" /></a> </p><p> LMS เป็นคำที่ย่อมาจาก Learning Management System หรือระบบการจัดการเรียนรู้ เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ จะประกอบด้วยเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สอน ผู้เรียน ผู้ดูแลระบบ โดยที่ผู้สอนนำเนื้อหาและสื่อการสอนขึ้นเว็บไซต์รายวิชาตามที่ได้ขอให้ระบบ จัดไว้ให้ได้โดยสะดวก ผู้เรียนเข้าถึงเนื้อหา กิจกรรมต่าง ๆ ได้โดยผ่านเว็บ ผู้สอนและผู้เรียนติดต่อ สื่อสารได้ผ่านทางเครื่องมือการสื่อสารที่ระบบจัดไว้ให้ เช่น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ห้องสนทนา กระดานถาม - ตอบ เป็นต้น นอกจากนั้นแล้วยังมีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ การเก็บบันทึกข้อมูล กิจกรรมการเรียนของผู้เรียนไว้บนระบบเพื่อผู้สอนสามารถนำไปวิเคราะห์ ติดตามและประเมินผลการเรียนการสอนในรายวิชานั้นอย่างมีประสิทธิภาพ<br />ที่มา : <span style="color:#ffff00;">http://www.kroobannok.com/1585</span><br /><br /><br /><strong><span style="color:#ff0000;">3. LCMS : Learning Content Management System</span></strong> </p><p><a href="http://3.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S1ASIzipqVI/AAAAAAAAABk/QiaDz_7CBJA/s1600-h/LCMS.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5426857493465246034" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 200px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S1ASIzipqVI/AAAAAAAAABk/QiaDz_7CBJA/s320/LCMS.JPG" border="0" /></a><br /> Learning Content management system คือระบบจัดการจัดการเนื้อหาการเรียนรู้ เป็นระบบที่มีการบูรณาการในส่วนเครื่องมือการสร้างและจัดการเนื้อหาในระบบ ซึ่งเป็นระบบที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สอนและผู้เรียนในการจัดการสอน ช่วยให้ผู้สอนพัฒนาเนื้อหาออนไลน์เพื่อการนำเสนอในรูปแบบที่เป็นโครงสร้างสามารถปรับเปลี่ยนได้ ช่วยให้ผู้เรียนเข้าสู่เนื้อหาได้หลากหลายขึ้น<br />ที่มา : <span style="color:#ffff00;">http://gotoknow.org/blog/orapan2525/301964</span></p>พีระเดช 52C31http://www.blogger.com/profile/07912466427488071341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4347791613472115118.post-30863710313155984152010-01-14T02:16:00.000-08:002010-01-14T02:51:14.538-08:00มาตกแต่งภาพง่ายกับ slide.comมาแต่งภาพง่ายๆ กับ <a href="http://www.slide.com/">www.slide.com</a><br /><br /><div align="center"><a href="http://1.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S071XgJCzuI/AAAAAAAAABM/YhNtqLrAtjE/s1600-h/jia1.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5426544385141690082" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 180px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S071XgJCzuI/AAAAAAAAABM/YhNtqLrAtjE/s320/jia1.JPG" border="0" /></a> </div><div align="center">ขั้นตอนที่ 1 Browse รูปที่ต้องการจะตกแต่ง</div><div align="center"><br /></div><div align="center"><a href="http://2.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S071XCkJmuI/AAAAAAAAABE/4KKkXT7oQMg/s1600-h/jia2.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5426544377202318050" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 180px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://2.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S071XCkJmuI/AAAAAAAAABE/4KKkXT7oQMg/s320/jia2.JPG" border="0" /></a> ขั้นตอนที่ 2 เลือกคลิกคำว่า "สติ๊กเกอร์" แล้วเลือกของตกแต่งตามใจชอบ<br /><br /><a href="http://4.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S071WVzmCMI/AAAAAAAAAA8/39wr8Qqz0Io/s1600-h/jia3.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5426544365187500226" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 180px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://4.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S071WVzmCMI/AAAAAAAAAA8/39wr8Qqz0Io/s320/jia3.JPG" border="0" /></a><br />ขั้นตอนที่ 3 เลือกคำว่า" โปสเตอร์" แล้วปรับแต่งโปสเตอร์ของเราตามใจชอบ<br /><br /><div><a href="http://1.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S07081pRfLI/AAAAAAAAAA0/egHQ5IfnBQQ/s1600-h/jia4.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5426543927057546418" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 180px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S07081pRfLI/AAAAAAAAAA0/egHQ5IfnBQQ/s320/jia4.JPG" border="0" /></a><br />ขั้นตอนที่ 4 เลือกคำว่า "หลากหลายรูป" แล้วเลือกตามใจชอบในที่นี้เลือก "Paparazzi"<br /><br /><br /><div><a href="http://3.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S0708IiqVsI/AAAAAAAAAAs/CP5kdTkclbM/s1600-h/jia5.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5426543914950219458" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 180px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S0708IiqVsI/AAAAAAAAAAs/CP5kdTkclbM/s320/jia5.JPG" border="0" /></a><br />ขั้นตอนที่ 5 เมื่อตกแต่งรูปเสร็จแล้วกด "บันทึก"<br /><br /><br /><br /><div><a href="http://1.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S0707hRWT1I/AAAAAAAAAAk/wV8hNHyBvZ0/s1600-h/jia6.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5426543904408620882" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 180px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S0707hRWT1I/AAAAAAAAAAk/wV8hNHyBvZ0/s320/jia6.JPG" border="0" /></a><br /><br />ขั้นตอนที่ 6 ใช้อีเมล์ของเราลงทะเบียนเพื่อจขอรหัสรูปของเรา<br /><br /><br /><br /><div align="center"><a href="http://1.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S0707BSwRDI/AAAAAAAAAAc/G5NZ4UftrLI/s1600-h/jia7.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5426543895824581682" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 180px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/S0707BSwRDI/AAAAAAAAAAc/G5NZ4UftrLI/s320/jia7.JPG" border="0" /></a><br /><br />ขั้นตอนที่ 7 Copy Code ไปใส่ในblog ของเรา เป็นอันเสร็จ<br /><br /><br /><br /><div><embed src="http://widget-61.slide.com/widgets/themepic.swf" type="application/x-shockwave-flash" quality="high" scale="noscale" salign="l" wmode="transparent" flashvars="cy=bb&il=1&channel=3242591731747858529&site=widget-61.slide.com" style="width:400px;height:400px" name="flashticker" align="middle"></embed><div style="width:400px;text-align:left;"><a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=3242591731747858529&map=A" target="_blank"><img src="http://widget-61.slide.com/z1/3242591731747858529/bb_t016_v000_s0un_f00/images/xslide1.gif" border="0" ismap="ismap" /></a> <a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=3242591731747858529&map=B" target="_blank"><img src="http://widget-61.slide.com/z2/3242591731747858529/bb_t016_v000_s0un_f00/images/xslide4.gif" border="0" ismap="ismap" /></a> <a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=3242591731747858529&map=G" target="_blank"><img src="http://widget-61.slide.com/z4/3242591731747858529/bb_t016_v000_s0un_f00/images/xslide42.gif" border="0" ismap="ismap" /></a></div></div><br /><br /><div>นี่คือภาพที่แต่งเสร็จสมบูรณ์<br /><br /></div><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><div></div></div></div></div></div><br /></div>พีระเดช 52C31http://www.blogger.com/profile/07912466427488071341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4347791613472115118.post-27704484631272158882009-11-19T23:46:00.000-08:002009-11-20T01:14:43.146-08:00ความแตกต่าง<div><font face="courier new" color="#3366ff" size="4">1. E-Learning กับ Web Base Instruction (WBI)</font><br /><br /><font face="courier new" size="4"><font color="#ffcc66">ความเหมือน</font> จะใช้การเรียน การสอนจากเว็ปหรือจากเครือข่ายอินเตอร์ซึ่งสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองเช่น การเรียนรู้ด้วยคอมพิวเตอร์ และสื่ออิเล็คทรอนิค<br /><br /><font color="#ffcc66">ความแตกต่าง</font> ได้เรียนตามความสามารถและความสนใจของตน โดยเนื้อหาของบทเรียนซึ่งประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอและมัลติมีเดียอื่นๆ จะถูกส่งไปยังผู้เรียนผ่าน Web Browser โดยผู้เรียน ผู้สอน และ เพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคน สามารถติดต่อ ปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้เช่นเดียวกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ โดยอาศัยเครื่องมือการติดต่อ สื่อสารที่ทันสมัย เรียนได้ทุกเวลา และ ทุกสถานที่</font><br /><br /><br />
<br /><p><font face="courier new" size="4"><font color="#3366ff">2.Computer Assisted Instruction (CAI) กับComputer Manage instruction (CMI)</font><br /><font color="#ffcc66">ความเหมือน</font> เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อประกอบในการสอน<br /></font></p><br /><br />
<br /><p><font face="courier new" size="4"><font color="#ffcc66">ความแตกต่าง</font> CAI เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อประกอบในการสอน ใช้ในลักษณะของการฝึกทดลอง การจำลองผลแต่ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยจัดการด้านการเรียนทั้งหมด ส่วน CMI เป็นการใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยในการจัดการกับกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งรวมไปถึงการทดสอบวัดผล เก็บบันทึกข้อมูลในการเรียนการสอน<br /></font></p><br /><font size="4"><font face="courier new"><font color="#3366ff">3.Web Base Instruction (WBI) กับComputer Assisted Instruction (CAI)</font> </font></font><br /><font face="courier new" size="4"><font color="#ffcc66">ความเหมือน</font> เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อประกอบในการสอน </font><br /><br /><br />
<br /><p><font size="4"><font face="courier new"><font color="#ffcc66">ความแตกต่าง</font> WBI สามารถทำการสื่อสารได้อย่างไร้พรมแดน โดยผู้เรียนสามารถติดต่อสื่อสารกับผู้เรียนด้วยกันและยังสามารถรับส่งข้อมูลการศึกษาอิเล็คทรอนิค อย่างไม่จำกัดเวลา ไม่จำกัดสถานที่ ส่วน CAI เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อประกอบในการสอน โดยใช้ในลักษณะแสดงการสาธิตและมิได้ออกแบบเพื่อการสื่อสารถึงกัน</font><br /></font></p><br /><br />
<br /><p><font size="4"><font face="courier new" color="#3366ff">4. Computer Assisted Instruction (CAI) กับ Mobile Learning (M-Learning)</font> </font></p>
<br /><p><font face="courier new" size="4"><font color="#ff9900">ความเหมือน</font> เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อประกอบในการสอน </font></p><font size="4"><font face="courier new"><font color="#ff9900">ความแตกต่าง</font> CAI เป็นการเรียนการสอนแบบสาธิต โดยไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์มาเป็นสื่อทั้งหมด ส่วน M-Learning เป็นการจัดการเรียนการสอนหรือบทเรียนสำเร็จรูป<br /></font><br /><br /></font></div>พีระเดช 52C31http://www.blogger.com/profile/07912466427488071341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4347791613472115118.post-4708052467431675222009-11-19T23:06:00.000-08:002009-11-20T01:14:43.146-08:00ความหมาย<p><span style="font-size:130%;"><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#ff0000;">1.E-learning</span><span style="color:#ffffff;"> </span>หมายถึง การเรียนผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ซึ่งใช้การนำเสนอเนื้อหาทางคอมพิวเตอร์ ในรูปของสื่อ มัลติมีเดี่ย ได้แก่ ข้อความอิเล็กทรอนิกส์ ภาพนิ่ง ภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหว ภาพสามมิติ ฯลฯ e-learning เป็นการ สร้างสิ่งแวดล้อม ทางการเรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพราะมีงานวิจัยหลายชิ้นที่สนับสนุนว่า เนื้อหาการเรียน ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านทาง มัลติมีเดี่ยนั้นสามารถทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีกว่าการเรียนจากสื่อข้อความ เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้การที่เนื้อหาการ เรียนอยู่ในรูปของข้อความอิเล็กทรอนิกส์ (e-text) ซึ่งได้แก่ขอ้ความซึ่งได้รับการจัดเก็บ ประมวล นำเสนอ และเผยแพร่ทาง คอมพิวเตอร์จึงทำให้มีข้อได้เปรียบสื่ออื่น ๆ หลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน การเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการ ด้วยความ สะดวกและรวดเร็วความคงทนของข้อมูล รวมมทั้งความสามารถในการทำข้อมูลให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา</span> </span><a href="http://gold.rajabhat.edu/learn/luis/home_luis.html"><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">http://gold.rajabhat.edu/learn/luis/home_luis.html</span></a><span style="font-size:130%;"><br /></span></p><br /><span style="font-size:130%;"><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#ff0000;">2.WBI(Web base Instruction)</span> หมายถึง การรวมคุณสมบัติของสื่อหลายมิติ (Hypermedia) กับ คุณลักษณะของอินเตอร์เน็ตและเวิล์ดไวด์เว็บ มาออกแบบเป็นเว็บเพื่อการเรียนการสอน สนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายที่สามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา โดยมีลักษณะที่ผู้เรียนและผู้สอนมี ปฏิสัมพันธ์กันโดยผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงถึงกัน</span><br /></span><a href="http://seashore.buu.ac.th/~50541053/content%20WBI.doc"><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">http://seashore.buu.ac.th/~50541053/content%20WBI.doc</span></a><span style="font-size:130%;"><br /><br /><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#ff0000;">3.CAI (computer-assisted instruction)</span> เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อประกอบในการสอน โดยใช้ในลักษณะของการฝึกทดลอง การจำลองผล แสดงการสาธิต เป็นต้น แต่ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยจัดการด้านการเรียนทั้งหมด เช่น ไม่เกี่ยวข้องกับการทดสอบ วัดผล และบันทึกผลการเรียน </span><br /><span style="font-family:courier new;"><a href="http://www.arip.co.th/articles.php?id=405462&page=2">http://www.arip.co.th/articles.php?id=405462&page=2</a><a href="http://www.baanmaha.com/community/"></span></span></a><span style="font-size:130%;"><br /><br /><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#ff0000;">4. CMI (Computer Managed Instruction</span>) เป็นการใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยในการจัดการกับกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งรวมไปถึงการทดสอบวัดผล เก็บบันทึกข้อมูลในการเรียนการสอนของผู้เรียนแต่ละคน โดยปัจจุบันจะเรียกว่า Learning Management System </span><br /></span><a href="http://www.arip.co.th/articles.php?id=405462&page=2"><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">http://www.arip.co.th/articles.php?id=405462&page=2</span></a><span style="font-size:130%;"><br /><br /><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#ff0000;">5. m-Learning (mobile learning)</span> คือ การจัดการเรียนการสอนหรือบทเรียนสำเร็จรูป (Instruction Package) ที่นำเสนอเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนการสอนผ่านเทคโนโลยีไร้สาย (wireless telecommunication network) และเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่และทุกเวลา โดยไม่ต้องเชื่อมต่อโดยใช้สายสัญญาณ ผู้เรียนและผู้สอนใช้เครื่องมือสำคัญ คือ อุปกรณ์ประเภทเคลื่อนที่ได้โดยสะดวกและสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์โดยไม่ต้องใช้สายสัญญาณแบบเวลาจริง ได้แก่ Notebook Computer, Portable computer, Tablet PC, Cell Phones ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน</span><br /></span><a href="http://learners.in.th/blog/mlearning/310049"><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">http://learners.in.th/blog/mlearning/310049</span></a><span style="font-size:130%;"><br /><br /><span style="font-family:courier new;"><span style="color:#ff0000;">6. Virtual Classroom</span> หมายถึง การเรียนการสอนที่กระทำผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ของผู้เรียนเข้าไว้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการเครือข่าย (File Server) และคอมพิวเตอร์ผู้ให้บริการเว็บ (Web sever) เป็นการเรียนการสอนที่จะมีการนัดเวลาหรือไม่นัดเวลาก็ได้ และนัดสถานที่ นัดตัวบุคคล เพื่อให้เกิดการเรียนการสอน มีการกำหนดตารางเวลาหรือตารางสอน เข้าสู่กระบวนการเรียนการสอนพร้อมๆ กันหรือไม่พร้อมกัน มีการใช้สื่อการสอนทั้งภาพและเสียง ผู้เรียนสามารถร่วมกิจกรรมกลุ่มหรือตอบโต้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้สอนหรือกับเพื่อนร่วมชั้นได้เต็มที่ (คล้าย chat room) ส่วนผู้สอนสามารถตั้งโปรแกรมติดตามพัฒนาการประเมินผลการเรียนรวมทั้งประสิทธิภาพของหลักสูตรได้ ทั้งนี้ ไม่จำกัดเรื่องสถานที่ เวลา (Any Where & Any Time) ของผู้เรียนในชั้นและผู้สอน ประเภทของห้องเรียนเสมือน </span><br /></span><a href="http://learners.in.th/blog/sunant1/92906"><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">http://learners.in.th/blog/sunant1/92906</span></a><span style="font-size:130%;"> </span>พีระเดช 52C31http://www.blogger.com/profile/07912466427488071341noreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-4347791613472115118.post-1363304228945542772009-11-13T00:01:00.000-08:002009-11-20T01:25:10.798-08:00ประวัติ<a href="http://1.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/Sv0cOGtpm7I/AAAAAAAAAAM/HbSSdNLoAFg/s1600-h/MaKuSaL+23694-002.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5403506156560292786" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/_Lf3cNBWZzrg/Sv0cOGtpm7I/AAAAAAAAAAM/HbSSdNLoAFg/s320/MaKuSaL+23694-002.jpg" border="0" /></a><br /><div>ชื่อ นายพีระเดช จันทร์แย้ม<br />ชื่อเล่น เจี๋ย </div><br /><div>เกิดเมื่อวาน ที่ 27 มกราคม</div><div>ศาสนาพุทธ สัญชาติไทย ใจเกินร้อย !!!!</div><div></div><div>ศึกษาอยู่ที่ คณะศึกษาศาสตร์ ม.ราชมงคลธัญบุรั<br />ภาควิชา เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา (ศษ/ท 52 c)</div><br /><p>E- mail <a href="mailto:peeradech_52c@hotmail.com">peeradech_52c@hotmail.com</a><br />โทร 08-4434-1296</p><p>คติ คนเรามีความพยายามเท่ากัน แต่ ใช่ไม่เท่ากัน<br /><br /></p><div></div>พีระเดช 52C31http://www.blogger.com/profile/07912466427488071341noreply@blogger.com1